21 พ.ย. , 2024, 09:55:19 am

Author Topic: *** รวมหัวข้อ : บ้านดี ( ฮวงจุ้ยดี ) และสุขภาพดี  (Read 26054 times)

fengshui

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
*** รวมหัวข้อ : บ้านดี ( ฮวงจุ้ยดี ) และสุขภาพดี
----------------------------------------------------------

การออกแบบบ้านให้ปลอดภัย สำหรับผู้สูงอายุ

หลักของการออกแบบก็คือ
      
1. มีความปลอดภัยทางกายภาพ
เช่น มีแสงสว่างเพียงพอในบริเวณบันไดหรือทางเข้า มีราวจับในห้องน้ำ พื้นกระเบื้องไม่ลื่น อุปกรณ์ปิดเปิดน้ำ
และลูกบิดเปิดประตูไม่ต้องออกแรงมากนัก มีสัญญาณฉุกเฉินอยู่บริเวณหัวเตียง หรือห้องน้ำ หรือจุดต่าง ๆ ในบ้าน
เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถกดเรียกขอความช่วยเหลือได้
      
2. สามารถเข้าถึงได้ง่าย
เช่น มีทางลาดสำหรับรถเข็น การออกแบบตู้ให้มีขนาดพอดี ผู้สูงอายุหยิบของได้สะดวก อยู่ใกล้แหล่งชุมชนเดิม
ญาติมิตรสามารถมาเยี่ยมเยียนได้สะดวก
      
3. สามารถสร้างแรงกระตุ้นให้ผู้สูงอายุได้
เช่น มีการเลือกใช้สีทาบ้านที่เหมาะสม ทำให้การใช้ชีวิตรู้สึกกระชุ่มกระชวย ไม่ซึมเศร้า มีการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ
กระตุ้นให้ผู้สูงอายุนำความสามารถต่าง ๆ มาใช้ได้อย่างเต็มที่
หรือมีการเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุได้ใช้ความสามารถก่อประโยชน์ให้กับชุมชน
      
4. ดูแลรักษาง่าย
กรณีนี้เกี่ยวข้องกับขนาดของบ้านที่ไม่ควรใหญ่จนเกินไป หรือถ้าหลังใหญ่ก็ควรจะมีห้อง
พร้อมบานประตูเปิดปิดได้ เพื่อความสะดวกในการดูแล สนามหญ้าอาจเปลี่ยนเป็นพุ่มไม้เตี้ย เพื่อลดภาระในการดูแลลง เป็นต้น
      
ลักษณะของบ้านพัก
ควรเป็นบ้านชั้นเดียว หรือมีห้องนอนอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน ทางเข้าบ้านควรมีระดับเดียวกับพื้นภายนอก ไม่ควรมีธรณีประตู
มีบริเวณบ้านที่สามารถทำสวน เลี้ยงสัตว์ หรือทำกิจกรรมเบา ๆ ได้ พืชพันธุ์ที่ปลูกอาจเป็นไม้ดอก ไม้หอม
ควรหลีกเลี่ยงไม้ที่มีหนาม หรือมียาง ประตูควรใช้มือจับแบบก้านโยก มีระบบตัดไฟช็อตและไฟฉุกเฉิน
      
ห้องนอนของผู้สูงอายุ หากมีหน้าต่างมองเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกได้ก็จะเป็นสิ่งที่ดี
ภายในห้องควรมีการระบายอากาศที่ดี พื้นห้องใช้สีสว่าง นุ่ม และบำรุงรักษาได้ง่าย
ตู้เสื้อผ้าควรเป็นแบบบานเลื่อน บริเวณหัวเตียงอาจติดตั้งสัญญาณฉุกเฉิน
      
สำหรับห้องน้ำ
ประตู้ห้องน้ำควรกว้างสักหน่อย (ประมาณ 1.5 - 2 เมตร) เมื่อเปิดประตู ระดับพื้นภายใน-ภายนอกควรเท่ากัน
พื้นผิวห้องน้ำไม่ควรลื่น ก๊อกน้ำควรเป็นแบบก้านโยกเพราะเมื่ออายุมากขึ้น ข้อมืออาจไม่แข็งแรงพอจะเปิด-ปิดก๊อกน้ำได้อีก
ฝักบัวควรเป็นชนิดแรงดันต่ำ และควรติดตั้งสัญญาณฉุกเฉิน
      
นอกจากนั้น ควรให้ความสำคัญกับพื้นที่ต่างระดับ
เช่น ใช้สีที่ตัดกัน หรือพื้นผิวที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถสังเกตได้ค่ะ
      
ขอบคุณข้อมูลจากหน่วยวิจัย สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ
ภาควิชาเคหการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
« Last Edit: 13 มิ.ย. , 2011, 02:48:00 am by fengshui »

fengshui

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
สีฟ้ากระตุ้นจินตนาการ-กล้าเสี่ยง สีแดงดึงดูดสนใจทุกรายละเอียด 
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 
 
   
การใช้เฟอร์นิเจอร์สีฟ้าช่วยโน้มนำความคิดสร้างสรรค์และความกล้าเสี่ยง
 
เอเจนซีส์ – การได้อยู่ท่ามกลางสีฟ้าช่วยกระตุ้นจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ทำให้คนเรากล้าเสี่ยงมากขึ้น
ขณะที่สีแดงดึงดูดความสนใจให้มุ่งมั่นในรายละเอียด
       
นานมาแล้วที่สีฟ้าถูกนำไปเชื่อมโยงกับความรู้สึกสงบเยือกเย็น
แต่งานวิจัยล่าสุดจากแคนาดาระบุถึงคุณประโยชน์ใหม่ที่เฟอร์นิเจอร์หรือผนังสีนี้นำมาให้
หลังพบว่าอาสาสมัครที่ทำการทดสอบหลายอย่างมีความคิดสร้างสรรค์และกล้าเสี่ยงมากขึ้น
       
ในทางกลับกัน สีแดงทำให้อาสาสมัครมีสมาธิและสนใจในรายละเอียดมากขึ้น
บ่งชี้ว่าสีนี้อาจช่วยในการซึมซับข้อมูลที่ซับซ้อนหรือการอ่านหนังสือเตรียมสอบ
       
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบริติช โคลัมเบีย แคนาดากล่าวว่า
การค้นพบนี้อาจมีนัยต่อทุกอย่างตั้งแต่สีของคำเตือนบนฉลากยา การออกแบบสำนักงาน ห้องเรียนและป้ายจราจร
       
ผลศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารไซนส์ พิจารณาจากผลลัพธ์จากสีแดงและสีฟ้าที่มีต่ออาสาสมัครที่ทำแบบทดสอบที่ต้องใช้ความคิด 6 ชุด
เช่น การสร้างวลีใหม่จากพยัญชนะที่จัดให้ การจดจำคำต่างๆ และการออกแบบของเล่นสำหรับเด็ก
       
หลังการทดสอบ นักวิจัยพบว่าสีแดงที่มักถูกนำไปเชื่อมโยงกับอันตราย
คำเตือนและข้อผิดพลาด ทำให้อาสาสมัครตื่นตัวและระวังความเสี่ยงมากขึ้น
       
ในทางตรงข้าม สีฟ้าที่เชื่อมโยงกับความกว้างไกลและความรู้สึกสงบสุข ทำให้อาสาสมัครกล้าเสี่ยงมากขึ้น

การทดสอบหลายชุดทำในเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยที่อาสาสมัคร 161 คนแก้โจทย์ต่างๆ
บนแบ็คกราวด์หน้าจอสีฟ้า แดง และสีขาวสำหรับกลุ่มควบคุม
       
ในการทดสอบหนึ่ง อาสาสมัคร 42 คนได้รับกระดาษที่มีภาพวาดชิ้นส่วนต่างๆ 20 ชิ้น
และได้รับโจทย์ให้เลือกชิ้นส่วน 5 ชิ้นมาออกแบบของเล่นเด็ก
       
“การออกแบบของเล่นในสภาพแวดล้อมสีแดง ได้ของเล่นที่สามารถนำไปเล่นได้จริงและมีความเหมาะสมมากกว่า
ของเล่นที่ออกแบบในสภาพแวดล้อมสีฟ้า
แต่มีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์และแปลกใหม่น้อยกว่าของเล่นที่เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมสีฟ้า”
ดร.จูเลียต จู ผู้สอนวิชาการตลาดของมหาวิทยาลัยบริติช โคลัมเบีย และผู้นำการวิจัยอธิบาย
       
นักวิจัยเชื่อว่า ปฏิกิริยาตอบสนองต่อสีไม่ได้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ
แต่เป็นเพราะคนเราเรียนรู้จากชีวิตประจำวันในการเชื่อมโยงสีบางสีกับสถานะอารมณ์ต่างๆ
และผลลัพธ์นี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละวัฒนธรรม

       
        “ผลวิจัยบ่งชี้ว่า สีต่างๆ อาจมีประโยชน์ต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะของงาน หากเป็นงานที่ต้องการความสนใจและสมาธิ ตัวอย่างเช่นการจดจำข้อมูลสำคัญหรือการทำความเข้าใจผลข้างเคียงของยาใหม่ สีแดงอาจเหมาะสมที่สุด เนื่องจากเรามักเชื่อมโยงสีแดงกับป้ายจราจร รถพยาบาล และอันตราย จึงมีปฏิกิริยาต่อสีแดงในรูปของกลไกการหลีกเลี่ยงและระมัดระวัง
       
        “อย่างไรก็ตาม หากงานต้องการความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ เช่น การออกแบบร้านขายงานศิลป์ หรือการประชุมระดมสมองสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ สีฟ้าจะมีประโยชน์มากกว่า เพราะสีนี้ถูกนำไปเชื่อมโยงกับทะเล ท้องฟ้า อิสระเสรี ความสงบสุข ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่ชักชวนการสำรวจพฤติกรรมและส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์” รายงานการวิจัยระบุ
       
        ผู้ออกแบบตกแต่งภายในมักใช้สีกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ต่างๆ ตัวอย่างเช่น โรงพยาบาลมักทาสีที่ให้ความรู้สึกเยือกเย็นสงบ เช่น สีฟ้าและสีเขียว ขณะที่ร้านฟาสต์ฟูดใช้สีแดงเพื่อกระตุ้นความอยากอาหาร
 

fengshui

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
คนในประเทศตะวันตก (ฝรั่ง) เป็นโรคหอบหืดประมาณ 50 เท่าของคนบ้านนอก (ชนบท) ในอาฟริกา
ทำให้เกิดสมมติฐานหรือความเชื่อเรื่อง "อนามัยจัด (hygiene hypothesis)" ที่ว่า
การสัมผัสพยาธิ และเชื้อโรคหลายชนิดน้อยในวัยเด็กอาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้คนเป็นโรคหอบหืดกันมาก

แต่ท่านศาสตราจารย์นายแพทย์ฮาโรลด์ เอส. เนลซัน ผู้เชี่ยวชาญสาขาโรคหอบหืดและภูมิแพ้
โรงพยาบาลแนชนัล จิวอิช เฮลต์ เดนเวอร์ สหรัฐฯ กล่าวว่า

สมมติฐานเรื่อง "อนามัยจัด" ยังอธิบายปรากฏการณ์ที่โรคหอบหืดเพิ่มขึ้นมากเป็น 2 เท่าในสหรัฐฯ
ตั้งแต่ช่วงปี 1980s (1980-1989 หรือ พ.ศ. 2523-2532 ได้ไม่ดีเท่าไร

ท่านกล่าวในที่ประชุมวิชาการว่า สาเหตุอื่นๆ ที่เป็นไปได้คือ

1. การที่ระดับวิตามิน D ของคนสหรัฐฯ ลดต่ำลง
2. การใช้สเปรย์ทำความสะอาดหรือ "สเปรย์สำหรับห้องปรับอากาศหรือห้องแอร์ (air refreshener)"
    และน้ำยาทำความสะอาดกระจก ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง

การศึกษาจากประเทศยุโรป 10 ประเทศพบว่า ผู้ใหญ่ที่ใช้สเปรย์ "ทำความสะอาด"

4 ครั้งต่อสัปดาห์ขึ้นไป มีความเสี่ยง (โอกาสเป็นโรค) หอบหืดเพิ่มขึ้น 2 เท่า (200%)
1 ครั้งต่อสัปดาห์ขึ้นไป มีความเสี่ยง (โอกาสเป็นโรค) หอบหืดเพิ่มขึ้น 50%
...

การศึกษาจากออสเตรเลียก็พบว่า สเปรย์ "ทำความสะอาด" เพิ่มเสี่ยงโรคหอบหืดในเด็ก

ส่วนการศึกษาในสหรัฐฯ ปี 2007 หรือ พ.ศ. 2550 พบว่า
ผู้หญิงตั้งครรภ์ (ท้อง) ที่มีระดับวิตามิน D ในเลือดต่ำเพิ่มเสี่ยงโรคหอบหืดทั้งแม่และลูก ***


การศึกษาในเด็กอายุ 6-7 ขวบมากกว่า 200,000 คนพบว่า
การใช้ยาแก้ไข้แก้ปวดพาราเซตามอลในขวบปีแรกเพิ่มเสี่ยงโรคหอบหืด 46%
เด็กที่ใช้ยาพาราเซตามอลมากมีความเสี่ยงโรคหอบหืดเพิ่มขึ้น 3 เท่า (300%)

กลไกที่อาจเป็นไปได้คือ พาราเซตามอลทำให้ระดับสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อ "กลูทาไตโอน (glutathione)" ลดลง

...

อาจารย์เนลซันกล่าวว่า เรื่องยาพาราเซตามอลนั้น... ยังไม่ควรเลิกใช้
เนื่องจากยากลุ่มอื่นที่พอจะแก้ไข้แก้ปวดในเด็กได้อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงจากยาได้บ่อย

คำแนะนำตอนนี้คือ

ควรลดการใช้น้ำยาเช็ดกระจก และสเปรย์ เช่น สเปรย์ปรับอากาศ (ดับกลิ่น) ฯลฯ ในบ้านให้น้อยลง
เพิ่มการระบายอากาศในบ้านหรืออาคารให้ดีขึ้น

fengshui

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
นพ. วัลลภ พรเรืองวงศ์

การศึกษาใหม่พบว่า "ถ้าคุณเป็นอย่างที่คุณกิน (สำนวนนี้ฮิตมาก), คุณเป็นผลลัพธ์จากที่ที่คุณอยู่:
การมีเพื่อนบ้านที่เป็นมิตร (pleasant = น่าคบ)
และเดินไปมา (ออกกำลังได้ง่าย โดยเฉพาะย่านนั้นปลอดภัย ไม่มีคนขาดความรับผิดชอบเลี้ยงน้องหมาพันธุ์โหดที่คอยไล่เห่า-ไล่กัดคนข้างบ้าน), มีผักผลไม้สดๆ ใกล้มือ (= ไปซื้อได้ง่ายและสะดวก), ช่วยลดเสี่ยงเบาหวานชนิด 2 [ Reuters ]

...

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเรื่องนี้ไว้ในต้นฉบับว่า 'If you are what you eat, you may also be a product of where you live:

Living in a neighborhood where it's pleasant and easy to walk and fresh fruits and vegetables are close at hand can slash a person's risk of developing type 2 diabetes, new research shows.'

...

การอยู่ในละแวกบ้านที่เพื่อนบ้านเป็นมิตร สิ่งแวดล้อมดี และซื้อหาผักผลไม้สดๆ ได้ง่าย
ช่วยลดเสี่ยงเบาหวานได้ 38% เมื่อเทียบกับละแวกบ้านที่แย่ที่สุด (unhealtheist)

อ.ดร.เอมี เอช. เอาชินคลอสส์ และคณะ แห่งวิทยาลัยสาธารณสุขเดรกเซล ฟิลาเดลเฟีย สหรัฐฯ พบว่า
นวัตกรรมทางสังคม เช่น การขนส่งมวลชน การเพิ่มพื้นที่สีเขียว ทำทางเดินเท้าให้ปลอดภัย เช่น ปลอดภัยจากน้องหมาพันธุ์โหด
ไม่มีแผงลอยเกะกะ ฯลฯ เพิ่มตลาดผักผลไม้ใกล้บ้าน ช่วยให้โรคอ้วนและเบาหวานลดลง

...

การศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบทางสังคมจากเพื่อนบ้านก่อนหน้านี้ได้ผลไม่แน่นอน
อาจารย์เอาชินคลอสส์จึงทำการศึกษาใหม่ในกลุ่มตัวอย่าง 2,285 คน อายุ 45-84 ปี จากหลายๆ พื้นที่รวมกัน ติดตามไป 5 ปี

ผลการศึกษาพบว่า คนที่มีเพื่อนบ้าน-สิ่งแวดล้อมดี 'top 10' หรือแบ่งเป็นกลุ่มย่อย 10 กลุ่ม
แล้วเลือกกลุ่มที่ได้คะแนนสูงสุด (10 อันดับดีสุดจาก 100) และมีแหล่งออกแรง-ออกกำลัง เช่น เดินเร็ว วิ่ง ขึ้นลงบันได ฯลฯ ได้ง่าย
มีความเสี่ยงเบาหวานลดลงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับกลุ่มที่แย่ที่สุด

...

กลุ่มที่หาอาหารสุขภาพได้ง่ายมีความเสี่ยงลดลงประมาณครึ่งหนึ่งเช่นกัน

ปัญหาใหญ่คือ ละแวกที่มีเพื่อนบ้านดี-สิ่งแวดล้อมดีมักจะเป็นเขตของคนที่มีฐานะดีกว่า (รวยกว่า), มีสัดส่วนคนขาว (ฝรั่ง) มากกว่า,
และแม้จะตัดปัจจัยเรื่องฐานะ-ผิวสีออกไป ผลลัพธ์ก็ยังพบว่า เพื่อนบ้านดี-สิ่งแวดล้อมดีช่วยลดเสี่ยงเบาหวานได้มากประมาณ 38%


fengshui

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
การศึกษาจากสหราชอาณาจักร (UK) พบอากาศในบ้านดีช่วยลดความชื้น (ที่มากเกิน)
ทำให้คนที่เป็นโรคหอบหืดหายใจสบายขึ้นตอนกลางคืน [ Reuters ]

กลไกที่เป็นไปได้ คือ การลดความชื้นสะสมในบ้าน มีส่วนช่วยลดจำนวนไรฝุ่น
ซึ่งชอบอากาศชื้นให้น้อยลง และอาจช่วยลดความหนาแน่นไรฝุ่นในบ้าน

...

อ.ดร.นีล ซี. ตอมซัน และคณะ แห่งมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ สกอตแลนด์ UK ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างที่เป็นโรคหอบหืดมานาน 9-30 ปี
อายุเฉลี่ย 42 ปี 119 คน ติดตามไปนาน 12 เดือน

การศึกษาทำโดยติดตั้งระบบลดความชื้น (เช่น ติดพัดลมดูดอากาศ ฯลฯ) ทำความสะอาดพรมด้วยไอน้ำร้อน
เปลี่ยนผ้าปูเตียง-ผ้าห่ม เพื่อลดไรฝุ่น

...

กลุ่มควบคุมได้รับการติดตั้งระบบลดความชื้น แต่ทำให้พัดลมไม่ทำงาน เพื่อให้อยู่แบบ "เดิมๆ" โดยไม่รู้ตัว

ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มที่ได้รับการติดตั้งเครื่องควบคุมความชื้น และระบายอากาศมีสมรรถภาพปอดดีขึ้นจากการทดสอบการหายใจตอนเย็น ส่วนกลุ่มที่ให้อยู่แบบเดิมๆ มีสมรรถภาพปอดแย่ลง

...

การลงทุนให้บ้านมีการระบายอากาศดีขึ้นอาจทำได้โดยการทำบ้านให้รกน้อยลง นำของที่ไม่จำเป็นออกไปทีละน้อย
เช่น หนังสือเก่าที่ไม่ได้อ่านในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ฯลฯ ติดตั้งพัดลมดูดอากาศ หรือทำการระบายอากาศให้ดีขึ้น

ทั้งนี้และทั้งนั้น, ควรระวังความปลอดภัยจากโจรผู้ร้ายด้วยเช่นกัน

fengshui

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
มงคล 38 ข้อ 4

๔. การอยู่ในถิ่นอันสมควร

ถิ่นอันสมควรควรประกอบด้วยสิ่งแวดล้อม ๔ อย่างได้แก่
๑.อาวาสเป็นที่สบาย หมายถึงอยู่แล้วสบาย เช่นสะอาด เดินทางไปมาสะดวก อากาศดี เป็นแหล่งชุมชน ไม่มีแหล่งอบายมุขเป็นต้น
๒.อาหารเป็นที่สบาย หมายถึงอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ เช่นมีแหล่งอาหารที่สามารถจัดซื้อหามาได้ง่าย เป็นต้น
๓.บุคคลเป็นที่สบาย หมายถึงที่ที่มีคนดี จิตใจโอบอ้อมอารี ถ้อยทีถ้อยอาศัย มีศีลธรรม ไม่มีโจร นักเลง หรือใกล้แหล่งอิทธิพลเป็นต้น
๔.ธรรมะเป็นที่สบาย หมายถึงมีที่พึ่งด้านธรรมะ มีที่ฟังธรรมเช่น มีวัดอยู่ในละแวกนั้น มีโรงเรียน หรือแหล่งศึกษาหาความรู้เป็นต้น

fengshui

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****

ท่านผู้ศึกษาฮวงจุ้ยพึงสังเกตุไว้ครับ

fengshui

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
*** 5 วิธีทำห้องให้น่านอน
« Reply #7 on: 14 ธ.ค. , 2010, 01:16:33 am »
(1). Make your room dark = ทำห้องให้มืด

ห้องที่มืดน่านอนกว่าห้องที่สว่าง หรือมีแสงเล็ดลอดเข้าไปได้, การนอนในห้องที่มืดทำให้นาฬิกาชีวิตของคนเราทำงานได้ดีขึ้น
ฮอร์โมนที่ช่วยในการพักผ่อนหลับนอน เช่น เมลาโทนิน ฯลฯ หลั่งออกมาได้ดีขึ้น
.
การฝึกหรี่ไฟ หรือใช้ไฟแสงสว่างให้น้อยหน่อยตอนกลางคืน โดยเฉพาะก่อนเข้านอน 1 ชั่วโมง เช่น หรี่จอคอมพิวเตอร์ให้สว่างน้อยลง ฯลฯ
ช่วยให้คนเราพักผ่อนนอนหลับได้ดีขึ้น และเมื่อถึงเวลานอนแล้วก็ควรปิดไฟให้หมด

(2). Keep your room dark = รักษาความมืด (ให้ดี)
.
ช่วงเวลานอนควรอุด "รูรั่ว" ที่แสงจะเล็ดลอดเข้าไปในห้องนอน เช่น ใช้ม่านสีเข้มกันแสงจากภายนอก ฯลฯ, หลีกเลี่ยงการนำของที่สว่าง
หรือเรืองแสงได้เข้าไปในห้องนอน เช่น ถ้าใช้นาฬิกาปลุก... ควรเลือกที่ไม่เรืองแสงออกมา ฯลฯ

(3). Keep your room cold = ทำห้องให้เย็นสบาย

ห้องที่เย็นสบายคงจะทำให้คนเราหลับได้สบายขึ้น...
.
ทีนี้ถ้าปรับเปลี่ยนห้องไม่ได้, การอาบน้ำ ล้างหน้า-มือ-เท้า หรือใช้ถุงเจลร้อนเย็น (เช่น ของ 3M ฯลฯ - ทำให้เย็นโดยใส่ในตู้เย็นก่อน)
ประคบก่อนนอนสักพัก มักจะช่วยให้หลับได้สบายขึ้น

(4). Keep your room quiet = ทำห้องให้เงียบ
.
การสวดมนต์ ฝึกโยคะ (ท่าที่ช้า และช่วยในการผ่อนคลาย), ไทชิ หรือเดินจงกลมช้าๆ ตามด้วยบรรยากาศเงียบๆ ช่วยให้คนเราหลับได้ง่ายขึ้น
.
การลงทุนทำห้องนอนที่ลดเสียงรบกวน เช่น มีหน้าต่างไม่มาก และปิดหน้าต่างให้สนิท, ติดพัดลมดูดอากาศ ฯลฯ
.
การใช้ 'white noise' หรือเสียงเรื่อยๆ เช่น เสียงสวดมนต์ เสียงธรรมชาติ (เช่น เสียงน้ำไหล คลื่นกระทบฝั่ง ฯลฯ),
หรือดนตรีประเภทบรรเลงช้าๆ ช่วยได้เช่นกัน
.
ข้อควรระวังในการเปิดเสียงเรื่อยๆ กล่อมนอน คือ ควรเลือกชนิดที่ตั้งเวลาปิดได้ใน 30-60 นาที,
เนื่องจากคนเรามีวงจรการนอนหลับแบบลึกสลับกับแบบตื้น, ถ้าเปิดดังเท่าๆ กันอาจทำให้เราตื่นได้ในช่วงหลับตื้น
.

ถ้าจะเปลี่ยนบ้าน หอพัก หรือคอนโดมิเนียม... ควรลองไปดูสถานที่หลายๆ เวลา เพื่อสังเกตว่า เสียงรอบๆ ดังเกินไปหรือไม่,
เพื่อนบ้านมีมารยาทดีหรือไม่ (เช่น บางบ้านเมาเป็นประจำ จะได้หลีกเลี่ยง ฯลฯ)... จะได้เลือกสถานที่อยู่ให้มีเสียงรบกวนน้อย
เช่น ไกลจากถนนใหญ่พอประมาณ ฯลฯ
.
เครื่องช่วยอย่างหนึ่งในการลดเสียงรบกวน และมีราคาไม่แพง คือ จุกอุดหู (ear plugs - "เอีย ปลั๊ก") แบบอ่อนนุ่ม
ใช้อุดหูเพือ่ลดเสียงรบกวนได้ดี โดยเฉพาะเวลาเดินทาง
.
จุกอุดหูหรือ "เอีย ปลั๊ก" ใช้อุดหูเวลาอาบน้ำได้ด้วย คือ ถ้าเราทำหน้าตรง ไม่เอียงไปทางซ้ายหรือขวา และใช้จุกอุดหู จะทำให้น้ำไม่เข้าไปในรูหู
.
เมื่อน้ำไม่เข้าไปในรูหู... อาการคันรูหูหลังอาบน้ำจะลดลง ยิ่งถ้าเลิกใช้ไม้พันสำลี (cotton buds) ปั่นหูได้เลยยิ่งดี
ไม้พันสำลีมักจะทำให้ผิวด้านในรูหูอักเสบ แห้ง คัน และขี้หูอุดตันได้ง่าย


(5). Keep your room calm = ทำห้องให้สงบ
.
ห้องนอนไม่ควรจะมีสิ่งเร้า เช่น คอมพิวเตอร์, TV ฯลฯ, และน่าจะมีสิ่งที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น ภาพทิวทัศน์, แจกันดอกไม้ กระถางต้นไม้เล็กๆ ฯลฯ เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการพักผ่อนหลับนอน


fengshui

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
เช้าๆเปิดไฟสีฟ้า-ค่ำๆเปิดไฟสีเหลือง

ศ.อับราฮัม เฮม และคณะจากมหาวิทยาลัยไฮฟา อิสราเอล (ตีพิมพ์ใน Chronobiology International) พบว่า
หลอดไฟฟ้าประหยัดพลังงานแบบหลอดตะเกียบ (compact fluorescent lamps / CFLs) ชนิดเดย์ไลท์ (daylight = แสงแดด) ซึ่งให้แสงสีฟ้าค่อนข้างมากคล้ายแสงแดด อาจรบกวนการสร้างฮอร์โมนเมลาโทนิน (melatonin) มากกว่าหลอดรุ่นเก่า (หลอดชนิดมีไส้)
หลอดไฟชนิดมีไส้ (filament bulbs) หรือหลอดกลมแบบเก่า ให้แสงสีเหลืองค่อนข้างมาก น่าจะกดการสร้าง-หลั่งเมลาโทนินน้อยกว่าหลอดประหยัดพลังงานรุ่นใหม่ หรือหลอดนีออน (ฟลูออเรสเซนท์)

เมลาโทนินสร้างจากต่อมไพเนียล (pineal gland) ในสมอง ช่วยให้ร่างกายเข้าสู่วงจรพักผ่อน-นอนหลับ
และอาจช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก
.
ฮอร์โมนนี้หลั่งออกมากตอนกลางคืน ซึ่งถ้ามีแสงสว่างรบกวน อาจทำให้การสร้าง-การหลั่งฮอร์โมนลดลง
ไม่ว่าจะเปิดไฟกลางคืนตอนตื่นนอน หรือตอนหลับ, เปิดตาหรือปิดตาก็ตาม
.
ก่อนหน้านี้มีผู้สังเกตว่า คนที่ทำงานเป็นกะ หรือเข้าเวร (shift workers) มักจะป่วยด้วยโรคบางอย่างบ่อยกว่าคนทั่วไป
.
ศ.เฮมอธิบายว่า แสงสว่างตอนนอนหลับเพิ่มเสี่ยงมะเร็งเต้านม 22%
.
หลอดนีอออน เช่น หลอดตะเกียบ ฯลฯ ได้รับการออกแบบมาให้มีแสงสีฟ้าในช่วงคลื่นประมาณ 460 นาโนเมตรมากขึ้น
เพื่อประหยัดพลังงาน และลดภาวะโลกร้อน
.
การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า การได้รับแสงสีฟ้า 2 ชั่วโมงตอนค่ำๆ ทำให้การสร้างเมลาโทนินลดลงมากกว่าแสงสีเหลือง (ช่วงคลื่น 550 nm)
หลอดไฟที่ให้แสงสีฟ้ามาก (ชนิดเดย์ไลท์) มีส่วนทำให้คนตื่นตัว (alert) มากขึ้น การเผาผลาญกำลังงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
(ร่างกายจะอุ่นมากขึ้น), และชีพจรจะเร็วขึ้นเล็กน้อย
.
การศึกษานี้เป็นการศึกษาแรกเริ่ม จำเป็นต้องรอการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนหรือคัดค้านต่อไป
ทว่า... บอกเป็นนัยว่า ถ้าอยากจะ "ปลอดภัยไว้ก่อน" น่าจะทำอย่างนี้

(1). เปิดหลอดไฟชนิดเดย์ไลท์ (มีแสงสีฟ้ามาก) ตอนกลางวัน
(2). เปิดหลอดไฟชนิดวอร์มไวท์ (มีแสงสีเหลืองมาก) ตอนกลางคืน และควรหลีกเลี่ยงการเปิดไฟจ้าตอนกลางคืน
(3). ไม่เปิดไฟนอน