23 พ.ย. , 2024, 11:30:31 pm

Author Topic: คำถามเรื่องการผูกดวงและฮวงจุ้ยครับ  (Read 4763 times)

sillypool

  • Newbie
  • *
มีคำถามอยากให้อาจารย์ช่วยไขข้อข้องใจหน่อยครับ

1. ดวงสามธาตุ  ดิน  ทอง  ไฟ  ดิถีเป็นดิน ราศี 6/  ถ้ามีดินอยู่ราศีบนอีกตัวหนึ่งจะเกิดลักษณะของการแก่งแย่งเหมือนดวงหลักหรือไม่ครับ 

2. ถ้าดิถี เป็น 6/ ซึ่งเป็นดินหยาง  ดินหยินกับดินหยางที่มาเป็นคู่ธาตุนั้น  จะแก่งแย่งกับดิถีในลักษณะที่ต่างกันอย่างไรครับ

3. ดวงสามธาตุ สมมติว่าเป็น ดิน ทอง ไฟ  ดิถีเป็นดิน  ตามที่เรียนมาธาตุสำคัญคือธาตุลำดับสุดท้าย  ในที่นี้คือ ไฟให้ดิน  ดินให้ทอง  ทองจึงเป็นธาตุสำคัญใช่หรือไม่ครับ  ถ้าใช่  ในกรณีที่ทองนั้นมีกำลังสูงมากแล้ว  ธาตุสำคัญจะเปลี่ยนเป็นตัวอื่นเช่น ไฟในกรณีที่ไฟมีกำลังอ่อน ใช่หรือไม่ครับ

4. ดวง 2 ธาตุ  ดิถีเป็นดิน และมีธาตุทองเป็นธาตุอีกตัวในดวง  ถ้าธาตุน้ำโคจรเข้ามาจะนับว่าดี  เพราะว่าเป็นกระแส ดิน ทอง น้ำ ใช่หรือไม่ครับ

5. การผูกดวง  จะทราบว่าดวงนั้นเป็นดวงหลักหรือดวงพิเศษดูเพียงสี่หลักคือ ยาม ดิถี เดือน ปี แล้วดูลัคนากับปฏิสนธิเป็นตัวสนับสนุน  หรือว่าต้องพิจารณาทั้ง 7 หลักเลยถึงจะทราบได้ว่าดวงนั้นเป็นดวงหลักหรือดวงพิเศษ

6. ถ้ำทศกัณฐ์นั้นทำอย่างไรครับ แล้วต้องผูกดวงลักษณะนี้ในกรณีไหนครับ  ตอนที่เรียนเรื่องดวงยังไม่ค่อยเข้าใจ  แต่ตอนนี้เริ่มเข้าใจเรื่องดวงแล้วจึงอยากถามเรื่องของการแก้ดวงที่เรียกว่าถ้ำทศกัณฐ์ครับ

7. หนังสือการทำนายลักษณะดวงที่เป็นเล่มเล็กๆ มีห้าเล่ม  ที่ว่าเป็นระบบซือจื้อเพ้ง  ซื้อมาตอนที่เรียนที่ชมรมครับ  ผมอยากทราบว่าระบบซือจื้อเพ้งนั้นมีความแม่นยำในการทำนายดวงมากน้อยแค่ไหน  ทางชมรมภูมิโหราศาสตร์นั้นให้การยอมรับระบบนี้หรือไม่  หากว่าแม่นยำผมจะสามารถหาศึกษาได้จากที่ไหนครับ  เพราะผมรู้สึกว่าในหนังสือนั้นไม่ค่อยละเอียดและไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่เลยครับ

8. ตอนนี้เป็นห่วงเรื่องดวงของประเทศไทยมาก  อยากทราบว่าอาจารย์ได้ทำนายไว้เกี่ยวกับเมืองไทยว่าอย่างไรบ้างครับ  เมื่อไหร่ถึงจะดีขี้น  ปีหน้าจะดีหรือไม่ครับ

9. น้ำนิ่งสามารถกระตุ้นลาภได้หรือไม่ครับ  ถ้าได้น้ำนิ่งและน้ำเคลื่อนไหวจะมีผลต่างกันหรือมากน้อยกว่ากันเพียงใดครับ

10. ตั้งจุดยึดเหนี่ยว  ต้องเป็นพระหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นหรือไม่ครับ  แล้วเมื่อตั้งจุดยึดเหนี่ยวแล้วจะทำให้เกิดปัญหาขัดแย้งเนื่องจากมีประธานสองจุดในห้องเดียวกันหรือไม่ครับ

11. เมื่อตั้งจุดยึดเหนี่ยวแล้ว  จะเท่ากับว่าห้องนั้นต้องเดินสองผังดาวใช่หรือไม่ครับ  แล้วจะทำอย่างไรเพื่อให้จุดยึดเหนี่ยวไม่ดูเด่นกว่าประธานของห้องครับ

12. ตำแหน่งลาภวิบัติและบารมีวิบัติของจุดยึดเหนี่ยวมีผลมากน้อยเพียงใดครับ

คำถามนอกรอบนะครับ  คืออยากทราบว่าเมื่อเรียนครบทุกขั้นแล้วก็ยังถึอว่าไม่จบหมดทุกเรื่องใช่มั๊ยครับ  ถ้าอยากจะศึกษาต่อกับทางชมรมจะทำอย่างไรครับ  ผมก็เพิ่งจะเรียนถึงขั้น 5 เองครับ  แต่ว่าขั้น 5 เรียนเพียงเดือนละครั้ง  ก็อยากจะทราบว่าจะไปหาศึกษาเพิ่มเติมหรือเรียนให้ไวกว่าเดิมได้หรือไม่ครับ  มีเวลาว่างสำหรับศึกษาพอสมควรครับ

ขอขอบพระคุณอาจารย์ครับที่ให้ความกระจ่างมาโดยตลอด  ขอบคุณครับ

fengshui

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
1. เป็นเฉพาะเวลามีลาภมา
2. 6/ ดินอิมครับ  ดินหยางแย่งลาภได้มากกว่า
3. ในกฎทั่วไป ธาตุสำคัญคือธาตุลำดับสุดท้าย 
    ในรายละเอียด ธาตุที่ทำให้ดวงสมดุล เช่น ไฟแรงมาก ดินอ่อน ทองปานกลาง  ต้องช่วยดินก่อน
   ( จำเรื่องที่ยกตัวอย่าง โซ่ ได้ไหม - โซ่แข็งแรงสุดเท่ากับ ข้อ/ห่วง ที่อ่อนสุด )

4. ใช่ครับ
5. เรื่องนี้ได้มีการย้ำตลอดว่า การหาธาตุสำคัญ พิจารณาเฉพาะ 4 หลัก ( แต่การอ่านดวง พิจารณาหมด 7 หลัก )
    ไม่ใช้เกณฑ์โหร จับซิ้ง ( เกียบใช้ .... )
    จึงมักเป็นข้อแนะนำจากท่านอจ.เสมอว่า การอบรมติวดวง ไม่ให้เอาเรื่องเหล่านี้มาปะปะน เพราะจะสับสนง่าย
    ต่อเมื่อหากธาตุสำคญได้ดีพอ (ไม่หลงทาง) จึงค่อยไปศึกษาเพิ่มเติม

6. ถ้ำทศกัณฐ์ หมายถึง เจ่าอุ่ง ครับ ( รายละเอียดขอให้ถามท่านอจ.ในห้องเรียน )
7. การอ่านดวง วิเคราะห์ดวง ของชมรมฯ เป็นระบบชื่อจื้อเพ้ง
   เป็นผู้ให้ความสำคัญที่ดิถีเป็นหลัก ( แต่เดิมเน้นหลักปี )
   ให้อ่าน การหาธาตุสำคัญจากราศีบนรหัส 1 - เล่มนี้ให้อ่านหลาย ๆ เที่ยว จะพอจับแนวทางได้ระดับหนึ่งครับ
   มากกว่านี้ ต้องอาศัยประสบการณ์เสริม
   *** ชมรมฯ กำลังจัดติวดวง รายละเอียดจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ***

8. ลงไว้หน้าแรกแล้ว ว่าเดือนนี้ ( กลางเดือนที่แล้ว - กลางเดือนหน้า ) ประเทศไทยมีเคราะห์รุนแรง หลังจากนี้ไปจะเบาลง ( แต่ยังไม่ดี )
9. ได้ครับ แต่ก็ได้ผลน้อยกว่าน้ำเคลื่อน
10. ไม่จำเป็น โต๊ะทำงาน เตียงนอน ก็ได้

11. ใช่ครับ ก็อย่าทำให้เด่นกว่า - เช่น ขนาดเล็ก สีสันไม่เด่นเท่า( ตอบแบบกำปั้นทุบดิน )
12. ตำแหน่งลาภวิบัติ ตั้งจุดยึดเหนี่ยว จะดีกว่า ทำให้ลาภวิบัตินิ่งขึ้น

..............

เรียนเดือนละครั้ง ในแต่ละช่วงที่ว่าง ได้เคยแนะนำให้มีการศึกษา Case ของกลุ่มอื่น ก่อนที่เขาจะนำมา Present
เหล่านี้จะช่วยปรับพื้นฐานแต่ละคนให้ดีขึ้นมาก แต่มักไม่ทำกัน มักจะมารอเรียนอย่างเดียว
เท่ากับรอป้อนอาหาร ไม่ศึกษาการทำอาหารเอง  -> จึงโตแบบช้า ๆ ไม่แน่น

ต่อไป การเรียนขั้น 5 - 6 คงจะให้นำ Case มาส่งก่อนวิเคราะห์ 1 งวดการเรียน
และอาจต้องมีการเช็คชื่อในภาคสนาม
สุดท้าย Case ที่นำมา Present จะนำมาวิเคราะห์ติดตามผล ในตอนท้ายการเรียน ซึ่งแต่เดิมแต่ละกลุ่มจะติดตามกันเอง