ในเมืองไทยสมัยก่อน มากกว่า 10 ปีมาแล้ว
การวิเคราะห์ฮวงจุ้ย จะเน้นหนักที่ชัยภูมิเพียงอย่างเดียว
ในส่วนของด้านการกำหนดตำแหน่ง จะใช้วิชา 8 ทิศ หรือ 4 เก๊ก เป็นหลัก
( ซึ่งตามระบบ 8 ทิศที่แท้จริงต้องเป็นระบบนับกะ และต้องแบ่งออกเป็น 8 ทิศระบบอาคาร และแบบบุคคล )
มีเพียงชมรมภูมิโหราศาสตร์ที่มีการกำหนดอย่างชัดเจนว่า
การวิเคราะห์ฮวงจุ้ย ต้องใช้ 4 วิชาหลักร่วมกัน
- ชัยภูมิ
- ทิศทาง ( ดาว 9 ยุค )
- ดวงชะตา ( ดวงจีน )
- ฤดูกาล ( ฤกษ์ยาม )
ต่อไปนี้ เป็นการวิเคราะห์ฮวงจุ้ย ตามแบบฉบับ ท่านอาจารย์เกรียงไกร
Step 1 ....Where
ขั้นตอนแรกมักจะดูชัยภูมิก่อน
คือ ถนนหนทาง สิ่งแวดล้อม ลักษณะวิบากต่าง ๆ รอบบ้าน
ทิศทางน้ำไหล สีอาคาร ตำแหน่งประธาน ฯลฯ
ตลอดจนหาสถานที่ปลอดเหล็กเพื่อวัดองศา
เอกลักษณ์ของวิชา
ตลอดเวลาที่ผ่านมา จะไม่มีการติดอุปกรณ์แก้ฮวงจุ้ยต่าง ๆ เช่น
โป๊ยก่วย ครุฑ สิงห์คาบดาบ ฯลฯ
แต่จะเน้นการปรับสภาพด้วยสีแม่ลูกเป็นหลัก และรูปทรงบางประการ เช่น ทรงกลม
เช่น เสา เพื่อแก้สภาพปะทะ โดยเน้นหลักการเปลี่ยนศัตรูเป็นมิตร
* ที่ผ่านมา เจอปัญหาฝั่งตรงข้ามเป็นกระจก
จึงได้จัดทำแผ่นฮกซิ่ว (มงคลวาสนา อายุวัฒนะ) เพื่อแก้กระจกโดยเฉพาะ
ติดหน้าบ้านเป็นมงคลกับทุกฝ่าย....( 2549 )
Step 2 ....How
ซินแสทั่วไปจะวัดด้วยล่อแกที่ประตูบ้าน หรือในบ้าน
กล่าวคือไม่เน้นเรื่องความแม่นยำของการวัดองศาที่ปลอดจากสิ่งรบกวน เช่น เหล็ก แม่เเหล็กใน TV วิทยุ
แต่ท่านอาจารย์จะเน้นเรื่องนี้มาก จะหาตำแหน่งที่ปลอดเหล็กจริง ๆ แล้วจึงวัด
บ่อยครั้งที่ต้องลงน้ำ เข้าสวน ยืมลานบ้านของเพื่อนบ้านเพื่อวัดองศา
ปัจจุบันมีจานวัดแสงอาทิตย์ ทำให้การทำงานง่ายขึ้นมาก
โดยเริ่มจัดทำต้นแบบปลายปี 44 และจัดทำเป็นอุปกรณ์การศึกษา ในงานไหว้ครู กลางปี 2545
สมัยก่อนวิชา 8 ทิศ และ 4 เก๊ก ดังมาก จะเป็นวิชาหลักในสมัยนั้น
แทบไม่มีคนใช้วิชาดาว 9 ยุคเลย มีเพียงซินแสอีกท่าน คือ อาจารย์หลินสุ่ยหยวน
ซึ่งเป็นผู้นำฉบับที่พิมพ์ในท้องตลาดปัจจุบันมาเผยแพร่
( แต่วิชาดาว 9 ยุคตัวเอียง จะไม่ตรงกัน )
ท่านอาจารย์ได้ใช้วิชาดาว 9 ยุคมาตั้งแต่แรก และขั้นตอนมีดังนี้
วัดองศา พิจารณายุคสร้าง
คำนวณผังดาว สมัยก่อนคำนวณด้วยมือทุกขั้นตอน
กำหนดตำแหน่งสำคัญ เช่น ประธาน ประตู เตาไฟ
การแก้ไข
1.พิจารณาการแก้ไขตามสภาพ
2.หากไม่ลงตัว หรือยังไม่ค่อยดี จะพิจารณาเปลี่ยนประธาน
3.ในบางครั้ง จะพิจารณาเรื่องเปลี่ยนยุค
เอกลักษณ์ของวิชา
- การเดินดาวเอียง
มีหลายสำนักโจมตีการเดินดาวของชมรมฯ ว่าไม่ถูกต้อง
แต่สำนักเหล่านั้น กลับนำวิธีการเดินดาวของชมรมฯ ไปใส่ไว้ในโปรแกรม ( แปลกแต่จริง )
( ซึ่งบางท่านที่เคยไปเรียนมาแจ้งให้ทราบว่า เอาไว้พิจารณาเมื่อระบบที่ตนเรียนมาไม่สอดคล้องกับเหตุการณ์จริง )
- การกำหนดช่วงองศาดาวตรง และดาวเอียง
- ให้ความสำคัญที่ประธาน ไม่ใช่หลังบ้าน
- การเดินดาววันจร
- จานวัดแสงอาทิตย์
- การปรับเปลี่ยนสภาพดาวจรที่ไม่ดีด้วยกั้ว
- การแก้ไขดาวเบญจภูติ
หมายเหตุ
วิธีการข้อ 6 และข้อ 7 ตลอดจนวิธีการข้ามน้ำเพื่อแก้อาถรรพ์
ได้มีผู้นำไปลอกเลียนแบบ และ Email ไปทั่ว
ตลอดจนวิธีการนำไปใช้ ก็ไม่ถูกต้อง ซึ่งอันตรายมาก
ขอให้ระวังและเผยแพร่บอกต่อด้วย
โปรแกรมแสดงตำแหน่งองศาแสงอาทิตย์ Solar AziMuth
เขียนขึ้นเองตามหลักสากล โดยศิษย์ชมรมฯ คุณโอภาส มิตรนรากร
ละเอียดในระดับเขต แขวง พร้อมค่า declination ของประเทศไทย
Step 3....Who & Whom
วิเคราะห์ดวง เพื่อกำหนดที่นั่ง หัวนอน
และพิจารณาดวงดาวประกอบ
โดยให้บทบาททั้ง 2 อย่าง ( ธาตุสำคัญ และบทบาทดาว ) ไม่ติดลบ
- การใช้เหรียญปรับแก้ดวง เริ่มในปี 2539
- ลัคนาสมบูรณ์ เป็นเอกลักษณ์ของชมรมฯ
- โปรแกรมผูกดวงจีน Version แรกทำงานบน DOS ออกใช้เมื่อ 2539
นับเป็นโปรแกรมผูกดวงจีน ระบบภาษาไทยโปรแกรมแรกในไทย
- โปรแกรมผูกดวงจีน รุ่นปัจจุบัน เป็นโปรแกรมเดียวที่สามารถกำหนดความแม่นยำของปฏิสนธิได้
- เอกลักษณ์ของวิชา
เน้นที่ธาตุสำคัญเป็นหลัก ไม่ใช่การทำนาย
เน้นสมดุล มากกว่าร่ำรวย
และใช้ทิศนั่งพิง หรือทิศหัวนอนเป็นตัวส่งเสริมดวงชะตา
Step 4.....When
กำหนดฤกษ์ในการปรับเปลี่ยน
จะใช้วิชาฤกษ์ยามระบบแม่ธาตุ เป็นหลักพื้นฐานสำคัญ
และใช้วิชาเต๋าซิ่ว - ฤกษ์ระบบธาตุจักรวาลเป็นตัวกลั่นกรองอีกครั้ง
* ฤกษ์บางระบบจะบอกว่าไม่มีอสูร
แต่จากประสบการณ์จริงที่ผ่านมา มีคนใช้ระบบนี้แล้วเป็นอัมพฤกษ์
ซินแสคนให้ฤกษ์ไม่สามารถแก้ได้ ( ทุกวันนี้ ซินแสคนนี้ยังสอนระบบนี้อยู่ )
ในที่สุด ท่านอาจารย์ได้ล้างอาถรรพ์ ปรับแก้หัวนอนตามธาตุสำคัญ
จนกลับมาเดินเหินได้ แต่ไม่สมบูรณ์นัก
* ฤกษ์บางระบบจะเน้นการกระตุ้นโชคลาภ ในทิศห้าม
โดยให้ไปทดลองต่าง ๆ เช่น จุดประทัด เผาไฟ ทุบทำลาย
( ซึ่งในบางกรณี คนสอนเองก็ไม่กล้าทำ แต่จะนำผลของลูกศิษย์มาเก็บเป็นข้อมูล )
ข้อมูลล่าสุดจากผู้ที่ทดลอง ตนเองถูกสลากกินแบ่ง 3 ตัว
แต่ลูกน้องในโรงงานตาย เสียขวัญ เสียค่าใช้จ่ายมากกว่ามาก
ข้อคิด : หากคนทำพิธีเสียชีิวิต ลูกหลานจะเป็นอย่างไร
* บางระบบ ก็ให้กระทบอสูร จะได้ลาภไว
อันตรายเหมือนระบบแรก
ข้อคิด : หากเราได้ฤกษ์ที่รองลงมา แต่ปลอดภัยกว่ามาก ย่อมน่าจะดีกว่ามาก
แล้วเราจะไปเสี่ยงทำไม ในเมื่อผลการกระทบอสูรได้พบได้เห็น
มีบันทึกมาโดยตลอดว่าอันตราย ตั้งแต่บาดเจ็บเล็กน้อย จนถึงตายได้
สำหรับระบบชมรมฯ จะให้ความหมายว่า หากอยู่เป็นปกติสุขแล้วนั่นคือดีที่สุด
ไม่จำเป็นต้องไปกระทำการใด ๆ เลย
แต่จะเน้นเรื่องการทำความดี ทำบุญ มีความกตัญญูต่อพ่อแม่ ครูอาจารย์
เอกลักษณ์ของวิชา
ฤกษ์ยามระบบเต๋าซิ่วบนพื้นฐานระบบแม่ธาตุ
ฤกษ์ 4 ทิศ ( ฤกษ์ปลอดภัย )
การล้างอาถรรพ์
หมายเหตุ :
ในปัจจุบัน ท่านอาจารย์จะวิเคราะห์ดวงก่อน แล้วค่อยมาดูชัยภูมิ ทิศทาง และฤกษ์ยาม
เพราะสะดวกในการทำงาน กล่าวคือ เมื่อพิจารณาบทบาทดาว จะได้ต่อเนื่องกันไป
ไม่ต้องมาหยุดดูดวง
ผลจากแนวคิดข้างต้น
ทำให้ซินแสในช่วงหลัง ก็ประกาศว่าตนเองก็ดูครบ 4 วิชาเช่นกัน
ซึ่งท่านอาจารย์ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะประโยชน์ตกอยู่กับผู้ขอรับบริการ
แม้ว่าบุคคลเหล่านั้น ไม่เคยให้เครดิตอาจารย์เลย
บันทึกและรับผิดชอบโดย
ซือเฮียสุภชัย วิวัฒนะประเสริฐ