ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ 22 มกราคม 2549
ทุกปีก่อนเทศกาลตรุษจีน เรามักจะได้ยินคำว่า ปีชง
เมื่อทางวัดและศาลเจ้าต่างๆขึ้นบอร์ดว่า
4 ปีไหนชงกันบ้าง ต้องแก้ด้วยวิธีทำบุญ สะเดาะเคราะห์
ปัดรังควานกับเทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา
หรือไท้ส่วยเอี้ย
คนทั้งหลายตามนักษัตรปีชงนั้นก็ไม่รอช้าที่จะแก้ แก้แล้วได้ผลดีจริงๆหรือ
คำตอบคือ ไม่แน่ใจ แต่ได้ความสบายใจ
ปีนี้ 2549 นักษัตรปีจอ ปะทะตรงกับผู้ที่เกิดปีมะโรง ภาพรวมของปีนี้ที่จะเกิดผลคือ
ผู้ทำความดีและเลวกรรม (การกระทำ) ย่อมส่งผลกับตนเองทั้งสิ้น
คำว่า ชง = ปะทะ (ปรปักษ์) , ฮะ = ส่งเสริม (สมพงศ์) ตามหลักของฮวงจุ้ยแล้ว
ชง - ฮะ
เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับตัวบุคคล ไม่เกี่ยวกับทิศทาง
ปีนี้ ชงกัน 2 คู่ 4 นักษัตร มวยคู่เอกคือ ปีมะโรงชง - ปีจอ ส่วนมวยคู่รองคือ ฉลู มะแม
ชงแล้วไม่ดี เป็นเรื่องของประเพณี แต่ทางวิชาการ ชงแล้วดีก็มี
เพราะงั้นเรื่องผิดหรือถูกอยู่ที่วิชาการ ไม่ใช่อยู่ที่ประเพณี
อาจารย์เกรียงไกร บุญธกานนท์ ประธานชมรมภูมิโหราศาสตร์กล่าวกับ METRO LIFE
ตามหลักวิชาการ อาจารย์เกรียงไกรยืนยันว่า ชงหรือไม่ชงจะดูจาก หลักปี ไม่ได้ แต่การแก้แต่ละสำนักต่างกันไป
อย่างน้อยการแนะวิธีแก้ด้วยการสะเดาะเคราะห์ก็เพื่อความสบายใจ แต่ถูกหรือผิดว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง
ทุกสำนักจะมีศาสตร์ของตัวเอง แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ มุ่งให้คนทำความดีเพื่อความสบายใจ
ไม่มีใครแนะทางแก้เพื่อให้ร้ายกับใคร
ชงและฮะ ตามหลักของศาสตร์นี้ต้องดูจาก 4 หลักคือ หลักปี หลักเดือน หลักวัน และยาม
เรียก โป๊ยหยี่สี่เถี่ยว ต้องทำความเข้าใจพื้นฐานของหลักธรรมชาติว่า
ดีก็มีตัวไม่ดีอยู่ด้วย ตัวไม่ดีก็มีตัวดีอยู่ด้วย จะไปบอกทั้งหมดว่าไม่ดีไม่ได้
เพราะฉะนั้น ชงแล้วดีก็มี 4 ปี 2 คู่เป็นขุมคลัง ถ้าปีไหนเป็นขุมคลังของใคร ชงปุ๊บ จะดีเลย
เพราะบนขุมขลังมีตัวลาภผล ในเวลาเดียวกัน ตัวนี้เป็นตัวให้โทษดวงเค้า ชงปั๊บทำให้ตัวโทษหายไปก็ดีขึ้นมา
หรือถ้าตัวนี้เป็นตัวให้คุณ ชงปุ๊บตัวดีหายไป
ฮะ คือภาคี จอภาคีกับเถาะ ถือว่าดี แต่บางทีมันไม่ดีก็ได้ เพราะถ้าคนปีเถาะมีตัวดีอยู่แต่ถูกจอภาคีไป
แทนที่จะดีก็จะแย่ ไม่ดีกับดวงเค้า ขณะเดียวกันคนปีเถาะ มีตัวไม่ดีในดวงเค้า ภาคีปุ๊บดวงเค้าก็อาจจะดีขึ้นมา
ดังนั้น จึงไม่เกี่ยวกับความเชื่อที่ว่า ชง ไม่ดี , ฮะ ดี อยากรู้ว่า ชง หรือ ฮะ ต้องผูกดวงแบบสุริยคติ
ก่อน 4 กุมภาพันธ์ทุกปี ส่วนวันตรุษจีนเป็นการเปลี่ยนตามระบบจันทรคติ รู้ว่า ชงหรือฮะ แล้วค่อย แก้ชง
ปีชง รีบแก้ โดยไม่ได้ผูกดวงจีน มีผลตรงข้ามเหมือนยารักษาไม่ถูกโรค
เกิดดวงของคุณ ตามหลักวิชาดูแล้วว่า ชงแล้วดี เมื่อคุณไปแก้มันออก ความดีก็ต้องหายไป
แต่คุณก็จะได้ในด้านของความสบายใจ มีใจเป็นกุศลเท่านั้นเอง
เปลี่ยนศัตรูเป็นมิตร
การวิเคราะห์ฮวงจุ้ย ต้องประกอบด้วย 4 วิชาหลักคือ
1. ชัยภูมิ 2. ดาว 9 ยุค ( วัดองศา และคำนวณดาว 9 ยุค 3. ดวงชะตาเจ้าบ้าน 4. ฤกษ์ยาม
ไม่ครบ 4 วิชานี้ถือว่าหลักไม่สมบูรณ์
หลักพื้นฐานของวิชาฮวงจุ้ยคือการสร้างมิตร เมื่อเราถือเอาสิ่งที่ไม่ดีเป็นศัตรู
เพราะฉะนั้นการแก้สำหรับความเห็นของอาจารย์เกรียงไกร บุญธกานนท์ คือ
เปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นมิตร
กฎเกณฑ์เริ่มต้นพื้นฐานมันเป็นอย่างนั้น แต่พอเวลานานเข้า มีสำนักต่างๆมากมาย
ตอนนี้มันเป็นเรื่องของบุคคลว่า เจ้าสำนักนั้นจะมีนิสัยใจคออย่างไร
ฉะนั้นวิธีแก้ก็จะเป็นไปตามบุคคลและท้องถิ่นนั้นๆว่ามีอุปนิสัยใจคออย่างไร ก็จะแก้ไปตามอุปนิสัยนั้นๆ
ยกตัวอย่าง ฮ่องกงเน้นการแก้ฮวงจุ้ยด้วยการต่อสู้ ทั้งที่หลักพื้นฐานบอกว่าให้เปลี่ยนจากศัตรูเป็นมิตร
เปลี่ยนไม่ได้ทำอย่างไร
หันเหศัตรูไปทางอื่น และสุดท้ายถ้าแก้ไม่ได้ต้องสลายศัตรู
โดยไม่ให้เราตกเป็นเป้าของศัตรู เมื่อไม่เป็นเป้า ศัตรูก็ทำอะไรเราไม่ได้
ส่วนรายละเอียด แก้ชง ของคนแต่ละคนก็ต้องว่าเป็นรายๆไป
ใช้ทั้งแบบ ขอฟ้าลิขิต และ ฝืนฟ้าลิขิต หรือบางคนอาจจะต้องใช้วิธีแก้ทั้ง 2 อย่าง
การจะขอฟ้าลิขิต ต้องมีองค์ประกอบคือ สร้างความดีถึงจะขอได้
แต่ฝืนฟ้าลิขิต ไม่เกี่ยวกับการทำดี แต่ต้องไม่ลืมว่า การติดกรรมทำให้ชะตาคุณโดนปิด
การทำความดี ทำการกุศล สามารถลดกรรมให้กับดวงชะตาได้
แต่ถ้าคุณไม่สร้างบุญกุศล คุณก็หมดสิทธิ์แก้ ส่วนวิธีแก้ดวงนั้น ของเราจะมีวิธี 1 2 3 4 ไม่ใช่วิธีเดียว
การแก้ดวง ชง ปะทะ
1. พกกำเช่า (ชะเอม) 5 ก้านติดตัว อาจมัดด้วยด้ายแดง แต่ห้ามอัดกรอบ
2. ให้นั่งสมาธิ ไปทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร
หมายเหตุ ทำไมต้องกำเช่า สมัยก่อน การผสมตัวยาที่แรงๆเข้าหากัน จะใช้ชะเอมเป็นตัวช่วย
ชะเอม จึงทำหน้าที่ เปลี่ยนศัตรูเป็นมิตร จำนวน 5 ก้าน หมายถึง ครบ 5 ธาตุ (ดิน ทอง น้ำ ไม้ ไฟ)
สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาจีนทั่วๆไป ลักษณะเป็นแท่งๆสีน้ำตาล มักขายเป็นขีด
เมื่อแบ่งนำออกมาใช้ ส่วนที่เหลือสามารถเก็บไว้ใช้คราวต่อไปได้
ไฉ่ซิงเอี้ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ
ทุกคนขอความร่ำรวย แล้วทุกคนรวยมั้ย
จริงๆแล้ว การไหว้ไฉ่ซิงเอี้ยไม่ได้อยู่ที่การขอ แต่อยู่ที่การให้ เมื่อรู้จักการให้ เราก็จะได้รับ
จะขออะไรเราต้องคิดถึงหลักความจริงว่า ทำอย่างไรมันถึงจะได้
อาจารย์เกรียงไกร บุญธกานนท์ บอกกับ Metro Life
หลักความจริง - ขอในสิ่งที่สมเหตุผล ต้องรู้จักทำและเรียนรู้ที่จะให้ เพื่อผลตอบรับ
ทำไมต้องไหว้ไฉ่ซิงเอี้ย - ทุกชนชั้น ทุกอาชีพ เงินเป็นคือองค์ประกอบสำคัญในการดำรงชีวิต
ไหว้ตามประเพณี วันชิวอิก (เมื่อวันที่ 28 มกราคม เวลา 23.00 น. ทุ่มขึ้นไปถือเป็นวันใหม่ ของปี)
คนที่เคยไหว้มาแล้ว สามารถไหว้ได้ตามปกติที่เคยปฏิบัติกัน
ไหว้ปีแรก ควรดูฤกษ์ไม่จำเป็นต้องใช้ฤกษ์ดีมาก แต่ต้องเป็นฤกษ์ปลอดภัย
ไม่เป็นทิศให้โทษของบ้านและทิศที่ไหว้ ไม่ปะทะกับปีเกิดเจ้าบ้าน ปีถัดมา
ไหว้ทิศเดิมไม่ต้องดูยามเพราะถือเป็นเรื่องต่อเนื่อง หากไหว้ทิศอื่น ต้องดูฤกษ์ใหม่
ฤกษ์ไหว้ปีแรก ไม่สามารถเลือกวันซิวอิกได้เพราะทิศเหนือเป็นทิศอสูรของวัน ให้ไหว้วันซิวหยี
(จันทร์ที่ 30 มกราคม 2549) เวลา 05.30 06.30 น. เพราะ ดิถีเป็นธาตุดิน ลาภคือธาตุน้ำ ทิศเหนือ
ให้ตั้งโต๊ะหันหน้าไปทางทิศเหนือ ฤกษ์นี้ขุมทรัพย์เปิด เท่ากับมีโชคลาภ และมีแม่ธาตุ เท่ากับมีเสน่ห์
มีลูกค้าและฤกษ์นี้ปลอดภัยใช้ได้กับทุกคนทุกปีเกิด
|
เกรียงไกร บุญธกานนท์
ฮวงจุ้ยพลิกชีวิต
อาจารย์เกรียงไกร บุญธกานนท์ เริ่มศึกษาศาสตร์ฮวงจุ้ยตั้งแต่อายุ 20 ปี โดยมีอาจารย์หยกซิ่ว แซ่โง้ว
(น้องชายของปู่) เป็นผู้สอน มีโอกาสใช้หลักวิชาครั้งแรกเมื่อต้องย้ายสุสานอาม่า เนื่องจากรัฐบาลเวนคืนที่ดิน
อาจารย์หยกซิ่วแนะนำให้ใช้ที่ดินแปลงที่มีอยู่แล้ว แต่ซินแสหลายคนทัดทานว่าใช้ไม่ได้ จึงตระเวนหาที่ใหม่
แต่แล้วก็ต้องกลับมาใช้ที่ดินแปลงเดิม โดยให้คำรับรองกับทุกคนว่า ธุรกิจครอบครัวจะขยายเท่าตัวในปีแรก
และถึง 100 เท่าในช่วง 10 ปี ซึ่งเป็นไปตามคำทำนายทุกประการ
ต่อมา มีโครงการตัดทางรถไฟไปพัทยา เส้นทางนั้นต้องเจาะอุโมงค์เหนือสุสานอาม่า
เป็นดังนี้ธุรกิจที่เคยไปได้ดีกลับล้มเหลว และอาจารย์เกรียงไกรล้มป่วยด้วยโรคตับแข็ง รักษานานกว่า 3 ปี
มีแต่ทรงกับทรุด ช่วงที่อาการทุเลาลงบ้างจึงหาสุสานใหม่ พบภูเขาลูกหนึ่ง วัดองศาแล้ว
อยู่ในทิศที่มีราศีมาเข่นฆ่าราศีที่ทำให้อาจารย์ป่วยหนักถึงขนาดสิ้นอายุได้
อาจารย์จึงตัดสินใจสร้างสุสานอาม่าเสียใหม่ที่เขาลูกนั้น
ย้ายเพียง 1 เดือนอาการป่วยดีขึ้นกว่าเท่าตัว
เดือนที่ 3 อาการป่วยหายสนิท เมื่อสุขภาพดีขึ้น ธุรกิจฟื้นตัว
ทำให้อาจารย์เริ่มเชื่อมั่นในอิทธิพลของศาสตร์ฮวงจุ้ยมาตั้งแต่บัดนั้น
ปี 2531 อาจารย์เกรียงไกร และผู้รู้วิชาฮววงจุ้ยประมาณ 7-8 คน
รวมตัวก่อตั้งชมรมภูมิโหราศาสตร์เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และมีเจตนารมณ์เผยแพร่เป็นวิทยาทาน
ปี 2532 เปิดให้บุคคลที่สนใจเข้าศึกษา มีสมาชิกประมาณ 20-30 คน โดยการศึกษาเป็นภาษาจีนทั้งหมด
ปี 2533 เปิดการอบรมภาคภาษาไทยรุ่น 1 โดยสอนเป็นภาษาไทย รุ่นที่ 1 โดยสอนเป็นภาษาไทย
แต่ตัวราศีต่างๆเป็นอักษรจีนทั้งหมด มีสมาชิกประมาณ 10 กว่าคน
ปี 2534 เปิดการอบรมภาคภาษาไทย รุ่นที่ 2 และได้ใช้รหัสตัวเลขแทนราศีภาษาจีน
เพื่อความสะดวกในการเรียนการสอนสำหรับผู้ไม่มีความรู้ภาษาจีน และดำเนินการสอนเรื่อยมา
ปี 2548 เปิดอบรมรุ่นที่ 40
รวมสมาชิกทั้งสิ้นประมาณ 9,200 คน
อยากเรียนรู้เรื่อง ฮวงจุ้ย
สอนเป็นวิทยาทาน จึงไม่มีการคิดค่าเรียน ค่าสอน คิดค่าใช้จ่ายเฉพาะค่า Coffee Brake ของโรงแรม
ค่าเอกสาร หนังสือประกอบการเรียน ฯลฯ
สมัครเรียนทุกเดือนกุมภาพันธ์ และเดือนกันยายน
ที่ชมรมภูมิโหราศาสตร์ โทร. 0-2234-9358 (ในวันและเวลาทำการ) หรือ www.fengshuitown.com
................
หมายเหตุ : ปัจจุบันเปิดอบรมทุกเดือนมกราคม และมิถุนายน